แอมโมเนีย
(Ammonia : NH3)

แอมโมเนีย (Ammonia : NH3)

ขนาด

60 ก.ก.

ความสูงรวมหัววาล์ว

150 ซม.

เส้นผ่าศูนย์กลาง

37 ซม.

น้ำหนักถัง

49-52 ก.ก.

ราคาถัง

– บาท

ราคาก๊าซ

– บาท

ถัง แอมโมเนีย (Ammonia : NH3) คุณสมบัติ

  • ถัง แอมโมเนีย (Ammonia : NH3) ขนาดบรรจุ 60 ก.ก
  • ถังเหล็ก
  • คุณภาพมารตรฐาน ISO4706-1989
  • ผ่านการทดสอบมาตรฐานอุตสาหกรรม
  • น้ำหนัก 49-52 กิโลกรัม
  • ความกว้าง: 37 ซม ความสูง: 150 ซม
  • วาล์ว DIN – 6UPG45A

ชื่อทางเคมี (Chemical Name)

Ammonia : NH3

เป็นสารเคมีพื้นฐานที่ใช้ประโยชน์ทั้งภาคเกษตรกรรม
และภาคอุตสาหกรรม

แต่ ในขณะเดียวกัน แอมโมเนีย ก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน
และสิ่งแวดล้อมได้ ถ้าผู้ใช้ขาดความระมัดระวัง
และอาจเกิดอุบัติเหตุในการจัดเก็บ การใช้งาน และการขนส่ง

ประโยชน์ของ แอมโมเนีย ในภาคเกษตรกรรม
และภาคอุตสาหกรรม

แอมโมเนีย ภาคเกษตรกรรม
  • แอมโมเนีย ส่วนใหญ่ประมาณ 85% ถูกนำไปใช้ในการผลิตปุ๋ยโดยเฉพาะใช้ผลิตปุ๋ย แอมโมเนียมไนเตรต (Ammonium Nitrate) และปุ๋ยยูเรีย (urea)
แอมโมเนีย ภาคอุตสาหกรรม
  • แอมโมเนีย ทำปฏิกิริยากับ Cyclohexanone ได้สารคาโปรแลกตัม (Caprolactam) ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำเส้นใยไนลอน (nylon)
  • ใช้ แอมโมเนีย เป็นสารตั้งต้นในอุตสาหกรรมการผลิตกรดไนตริก (Nitric acid)
  • ใช้ใน อุตสาหกรรมชุบแข็งและเคลือบผิวโลหะ โดยการทำให้ แอมโมเนีย แตกตัวทื่อุณหภูมิประมาณ 400-500 องศาเซลเซียส เพื่อให้สาร ไนโตรเจน เข้าไปอยู่ในโมเลกุลของโลหะ ทำให้โลหะมีคุณสมบัติแข็งขึ้นและลื่น
    เหมาะสมสำหรับใช้ทำชิ้นส่วนเครื่องจักรกลต่างๆ
  • ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำยางเข้มข้น (Concentrate Latex) โดย แอมโมเนีย ช่วยป้องกันการแข็งตัวของน้ำยาง และยับยั้งการเจริญเติบโตของ แบคทีเรีย  บางชนิด
  • ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และสารคเลือบผิวจอภาพ
  • นอกจากนี้ แอมโมเนีย ยังมีการนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างวัตถุระเบิด เช่น Tri Nitrotoluene (TNT), Nitro Cellulose Nitroglycerin และ Ammonium nitrate เป็นต้น

จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุจาก แอมโมเนีย
ซึ่งเกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศมักจะเกิดจาก…

” โรงงานอุตสาหกรรมห้องเย็น โรงน้ำแข็ง โรงงานทำไอศครีม “

โดยสาเหตุหลักเกิดจากความบกพร่องของอุปกรณ์ เช่น

วาล์วรั่ว ท่อขนส่งแตก หรือประเก็นรั่ว เป็นต้น

ตัวอย่างอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในประเทศ

เช่น ถังเก็บ แอมโมเนีย ระเบิดที่โรงงานน้ำแข็ง จ.ระนอง หรือเกิดการรั่วไหลจากท่อส่ง ก๊าซแอมโมเนีย ที่ห้องเย็น จ.ตรัง และ จ.ฉะเชิงเทรา

ส่วนในสหรัฐอเมริกาเองก็มีอุบัติเหตุจาก แอมโมเนีย เกิดขึ้นหลายครั้ง
จนองค์กรปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA)
ต้องจัดทำมาตรฐานข้อมูลอุบัติภัย จากการรั่วไหลของ แอมโมเนีย

สำหรับประเทศไทยมีการใช้ประโยชน์จาก แอมโมเนีย
อุตสาหกรรมหลายชนิด

ดังนั้นการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ทั้งผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป
รวมทั้งการเตรียมพร้อมในการจัดการรับมือกับอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น

จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดความรุนแรงและความเสี่ยงของอุบัติเหตุได้

ในบทความนี้จึงกล่าวถึงข้อมูลพื้นฐานในด้านต่างๆ ของ แอมโมเนีย
เช่น สมบัติทางกายภาพ กระบวนการผลิต
การใช้ประโยชน์ ความเสี่ยงและอันตราย รวมถึงแนวทางปฏิบัติ
เมื่อเกิดการรั่วไหล การเก็บรักษาและขนส่งอย่างปลอดภัย

คุณสมบัติทางเคมีและกายภาพ

แอมโมเนีย เป็นก๊าซที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
และเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักร ไนโตรเจน (Nitrogen cycle)
ที่ อุณหภูมิและความดันปกติ

แอมโมเนีย จะมีสถานะเป็นก๊าซ ไม่มีกลิ่นฉุนรุนแรงซึ่ง ทำให้เกิดการะคายเคืองได้

แต่ถ้าอยู่ภายใต้ความดันและอุณหภูมิเย็น จะมีสถานะเป็นของเหลว
แอมโมเนีย มีน้ำหนักโมเลกุลเท่ากับ 17.03 มีความถ่วงจำเพาะ
ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เท่ากับ 0.7 (Merck, 1996) 

จุดเดือด -33.4 องศาเซลเซียส มีความดันไอ 6,460 มิลลิเมตรปรอท
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส

ก๊าซแอมโมเนีย สามารถละลายน้ำได้ดี
มีจุดติดไฟที่อุณหภูมิ 648.89 องศาเซลเซียส

แอมโมเนีย จะเสถียรที่อุณหภูมิปกติ แต่จะสลายตัวให้ ไนโตรเจน
และ ไฮโดรเจน ที่อุณหภูมิสูง ลดความดันบรรยากาศปกติ การสลายตัว
เริ่มต้นที่อุณหภูมิ 450-500 องศาเซลเซียส การสลายาตัวของ แอมโมเนีย
เป็นแหล่งที่ให้ ไนโตรเจน และ ไฮโดรเจน บริสุทธ์

แนวทางปฏิบัติในการขนส่ง แอมโมเนีย

  • ยานพาหนะที่ใช้ขนส่ง แอมโมเนีย จะต้องมีเครืองหมายที่เป็นสากลบ่งบอกถึงอันตราย และพิษภัยทางสารเคมี
  • ถ้าใช้รถบรรทุก แอมโมเนีย ชนิดกึ่งรถพ่วงและรถพ่วง ต้องมีการยึดติดรถพ่วงกับตัวรถที่ ใช้ลากอย่างมั่นคงและปลอดภัย
  • นอกจากนี้ผู้ขนส่งควรมีคู่มือการจัดการ แอมโมเนีย ในกรณีเกิดอุบัติเหตุสาร เคมีหก รั่วไหล หรือกรณีเพลิงไหม้ รวมทั้งจะต้องมี ข้อมูลพื้นฐานของแอมโมเนีย
  • วิธีการดับเพลิงที่ถูกต้อง หรือวิธีปฐมพยาบาล รวมถึงมีหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อกับหน่วยปฎิบัติการฉุกเฉินได้ทันที เมื่อเกิดอุบัติเหตุ

“ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพ”
(Health Hazard Data)

แนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดการรั่วไหล

" และเกิดอัคคีภัย "

  • เมื่อพบเห็นการรั่วไหลของ แอมโมเนีย หรือเกิดเพลิงไหม้ภายในโรงงาน อุตสาหกรรม

ให้กดสัญลักษณ์แจ้งเหตุอันตราย แล้วโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉิน
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • อพยพ ทุกคนออกจากพื้นที่ที่มีการรั่วไหลและที่ ที่ แอมโมเนีย กระจายไปถึง หากพบเห็นผู้ประสบภัยหมดสติในที่เกิดเหตุ

ให้รีบช่วยเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัยและมีอากาศบริสุทธิ์
ทำการปฐมพยาบาลแล้วจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล

  • กรณีเกิดเพลิงไหม้ ให้ใช้น้ำฉีดเป็นฝอย เพื่อหล่อเย็นและดับเพลิง

ถ้ามีประกายไฟหรือเปลวไฟจะต้องใช้ผงเคมีแห้ง
หรือคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อป้องกันการระเบิด
หรือลุกไหม้ขึ้นได้อีก

  • ในขณะการระงับเหตุรั่วไหลเจ้าหน้าที่จะต้อง

สวมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
เพื่อป้องกันการสัมผัสกับ แอมโมเนีย โดยตรง

  • ทำความสะอาด แอมโมเนีย ที่รั่วไหล ด้วยการใช้น้ำจำนวนมากๆ
    ฉีดเป็นฝอยเพื่อดูดซับก๊าซ

ทั้งนี้จะต้องระมัดระวังไม่ให้น้ำที่ละลาย แอมโมเนีย ไหลลงสู่
แม่น้ำลำคลอง หรือแหล่งชุมชนเพราจะทำให้เกิดมลภาวะ
ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม

  • หลังจากจัดการกับเหตุการณ์รั่วไหลได้เรียบร้อยแล้ว ควรมีการดำเนินการสอบสวน

เพื่อหาแนวทางแก้ไข ไม่ให้เกิดเหตุในครั้งต่อไป ควรมีการตรวจ
สอบปริมาณ แอมโมเนีย ในอากาศ น้ำผิวดิน และน้ำใต้ดิน
เพื่อประเมินปริมาณที่ตกค้างและดำเนินการกำจัด
หรือชะล้างให้หมดสิ้นไป

การปฐมพยาบาล

กรณีที่แอมโมเนียสัมผัสตา ให้รีบล้างออกด้วยน้ำปริมาณมากๆ โดยเปิดน้ำให้ไหลผ่านตา

อย่างน้อย 15 นาที แล้วรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

กรณีที่แอมโมเนียสัมผัสผิวหนังล้างออกด้วยน้ำสบู่และน้ำ ถ้าเกิดแผลใหญ่เนื่องจาก ความเย็น

ห้ามถูหรือราดน้ำบริเวณนั้นให้รีบนำส่งแพทย์ทันที

กรณี หายใจเอาก๊าซแอมโมเนียเข้าไป ควรรีบเคลื่อนย้ายออกจากที่เกิดเหตุไปไว้ในที่อากาศถ่ายเท

ถ้าผู้ประสบเหตุหายใจอ่อนให้ใช้ออกซิเจน
ช่วยหายใจ นาน 2 นาที แต่ไม่เกิน 15 นาที
แต่หากหัวใจหยุดเต้นให้ปั๊มหัวใจทันที

กรณีกลืนกินแอมโมเนีย ให้บ้วนปากด้วยน้ำมากๆ และดื่มน้ำ 1 แก้ว

และทำให้อาเจียนโดยใช้ยาขับเสมหะ
หรือวิธีการล้วงคอ ยกเว้น ในรายที่หมดสติ
ให้รีบนำส่งแพทย์ทันที

ผู้ประสบเหตุควรอยู่ในห้องที่อบอุ่น หรือทำร่างกายให้อบอุ่นโดยอาจใช้ผ้าห่ม
คลุมช่วย จะต้องจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการปฐมพบยาบาลเบื้องต้น
รวมทั้งอุปกรณ์ป้งกันอันตรายส่วนบุคคลไว้ในบริเวณที่ แอมโมเนีย
รั่วไหลไปไม่ ถึง และจะต้องดูแลให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ

แนวทางปฏิบัติในการขนส่ง แอมโมเนีย

ในการปฏิบัติงานกับแอมโมเนียจะต้องมีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้ ถุงมือ รองเท้าบูธ ชุดกันสารเคมี

แว่นนิรภัยหรือที่ครอบตาเพื่อป้องกันแอมโมเนียกระเด็นเข้าตา (Air purify)
สำหรับใช้กับก๊าซแอมโมเนียโดยเฉพาะ (แถบสีเขียว) แบบครึ่งหน้าสำหรับ
ความเข้มข้นไม่เกิน 500 ppm แบบเต็มหน้าสำหรับความเข้มข้นไม่เกิน
2,500 ppm หากเกินกว่านี้หรือกรณีฉุกเฉินให้ใช้ชุดช่วยหายใจชนิด SCBA

บริษัท อ๊อกซิเทค จำกัด ดีลเลอร์ จำหน่ายก๊าซ

ของบริษัท ลินเด้ ประเทศไทย จำกัด

ก๊าซออกซิเจน ทางการแพทย์ , ก๊าซออกซิเจน อุตสาหกรรม , ก๊าซอะเซทิลีน ,
ก๊าซอาร์กอน , ก๊าซไนโตรเจน , ก๊าซฮีเลียม ฯลฯ

มีบริการจัดส่งทั่วภาคใต้